ซื้อรุ่นไหนดี

วิธีเลือกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ล้อเดียวไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า

e-Scooters
สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า

e-Unicycles
ล้อเดียวไฟฟ้า

e-Bikes
จักรยานไฟฟ้า

จะเลือกสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ล้อเดียวไฟฟ้า หรือจักรยานไฟฟ้าดี

รถ 3 ชนิดนี้มีลักษณะเฉพาะแตกต่างกันไป

จักรยานไฟฟ้าใช้งานได้ง่ายและปลอดภัยที่สุด ทุกคนในบ้านก็สามารถหยิบใช้ได้ง่าย

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะเร็วกว่าจักรยานไฟฟ้า ทำความคุ้นเคยไม่ถึง 5 นาที ขับขี่สนุก พกพาง่าย

ล้อเดียวไฟฟ้า ใช้เวลาฝึกนานหน่อย (ส่วนใหญ่ใช้เวลา 1-3 ชม.) เมื่อขับขี่คล่องแล้วล้อเดียวไฟฟ้าก็จะปลอดภัยไม่แตกต่างกับจักรยานและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามากนัก

ล้อเดียวไฟฟ้ามีล้อขนาดใหญ่จึงลุยได้ทุกที่ เช่น ทางขรุขระหรือทางแบบ off-road อีกทั้งยังมีแรงบิดมหาศาลจึงไต่ความชันได้ดีเท่าๆ สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแบบสองมอเตอร์เลย ล้อเดียวไฟฟ้ายังขึ้นชื่อว่าเป็นพาหะนะที่ควบคุมได้อิสระที่สุดในโลกอีกด้วย จึงให้สุนทรียภาพในการขับขี่มากที่สุด

การพกพาสะดวก

ในสเปกเท่าๆ กัน สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าจะเบากว่าจักรยานไฟฟ้า สามารถพกพาใส่ท้ายรถไปในที่ต่างๆ ได้ง่ายกว่า

โดยล้อเดียวไฟฟ้าจะเบาและเล็กที่สุดสามารถพกพาไปได้ทุกที่

ตัวไหนเหมาะสมกับเรา

หลักๆ เลือกที่งบประมาณ กับลักษณะการใช้งาน

ลักษณะการใช้งานดูระยะทาง ความเร็วที่อยากได้ และน้ำหนักที่ยกสะดวก ลองดูว่าอยากใช้ไปไหนบ้าง ขี่ไปซื้อของ ขี่ไปทำงาน ขี่ไปเรียน ใช้เล่นเป็นกีฬา ฯลฯ ก็จะทำให้เลือกระยะทางกับความเร็วที่เหมาะสมได้

แล้วค่อยลงรายละเอียดอื่นๆ อีกเล็กน้อย เพื่อตัดสินใจว่าอยากได้รุ่นไหน

น้ำหนักตัวรถ

เลือกตามลักษณะการใช้งาน แรงขึ้น ไกลขึ้น น้ำหนักก็เยอะขึ้น

หากใช้เชื่อมต่อกับการเดินทางชนิดอื่นๆ ก็เลือกน้ำหนักเบา ทำให้ยกสะดวก ขี่ชิลๆ ได้

หากใช้อย่างเดียว ไม่ต้องยก เลือกตัวที่เร็วขึ้นได้ ขี่สบายขึ้น น้ำหนักมากขึ้นหน่อย แต่ไม่ต้องยกก็สบาย


สำหรับสเปคแรงๆ จะหนักค่อนข้างมาก เหมาะกับคนที่ขี่เหมือนไปเล่นกีฬา ยกขึ้นรถ ขี่นานๆ เลย แล้วค่อยยกกลับบ้าน

ตัวที่น้ำหนักเยอะ เรามี Ramp ให้เข็นขึ้นรถได้

ความเร็ว

เทียบกับจักรยานแม่บ้าน ปั่นเร็วสุดๆ ได้ที่ 25 km/h

20-35 km/h เหมาะกับขี่ระยะทางใกล้ๆ ไม่เกิน 5-10 กม. ขี่ชิลๆ กินลมชมวิว ใช้เชื่อมต่อการเดินทาง ขึ้นรถไฟฟ้า

35-50 km/h เหมาะกับเดินทางไกลขึ้นมาหน่อย ขับขี่สนุก อัตราเร่งดี

50-100 km/h เหมาะกับผู้ที่ชอบความเร็ว ต้องการขับขี่แบบสปอร์ต ให้ความรู้สึกสนุกตื่นเต้น เดินทางได้รวดเร็ว

ระยะทาง

ลองดูว่าระยะทางที่เราจะขี่ไกลแค่ไหน ก็เลือกตามนั้นได้เลย

ขี่ได้ไกลขึ้น ก็แลกกับน้ำหนักเครื่องที่มากขึ้นด้วย ดูประกอบกับน้ำหนักว่าน้ำหนักแค่ไหนที่ยังยกสะดวกอยู่

แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร

สินค้าทุกตัวที่เราจำหน่าย เราได้คัดสรรและทดลองใช้อย่างถี่ถ้วน และเลือกเฉพาะยี่ห้อที่ดีที่สุดในตลาดมาให้ลูกค้า ดังนั้นเรารับประกันได้ว่าสินค้าทุกรุ่น เป็นแบรนด์ที่ดีที่สุดของโลก คุณภาพสูง และใช้แบตเตอรี่ที่มีคุณภาพปลอดภัย

ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีเสน่ห์แตกต่างกันไป ทั้งนี้แล้วแต่ความชอบและเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคน

ถูกแพง ต่างกันตรงไหน

ส่วนมากแล้วตัวที่ซึ่งราคาสูงกว่าก็จะเร็วและขี่ได้ไกลกว่า แต่น้ำหนักก็มากกว่าเช่นกัน ตัวที่ราคาสูงกว่าไม่ได้แปลว่าจะดีกว่าเสมอไป แต่เราควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งานที่สุด

ไม่ว่าราคาจะต่างกันแค่ไหน แต่สินค้าทุกชิ้นที่เราจำหน่ายมีคุณภาพดีทุกตัว เพื่อให้คุณมั่นใจว่า ซื้อไปแล้วจะใช้ได้ทนทานและปลอดภัย

ต้องเลือกจาก Watt กับ Volt ไหม

Watt

คือกำลังของมอเตอร์ ซึ่งตามจริงแล้ว Watt เยอะ ควรจะแรงกว่า แต่ก็ไม่เสมอไปเพราะมอเตอร์รุ่นใหม่ๆ ที่มีคุณภาพสูงถึงแม้ตัวเลข Watt อาจจะไม่เยอะ แต่ก็สามารถให้กำลังได้ดีกว่าแบรนด์ทั่วๆ ไปได้

เช่น มอเตอร์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ายี่ห้อ Dualtron ขนาด 800W ก็ให้กำลังมากกว่า มอเตอร์ 2,000W ในแบรนด์ทั่วๆ ไปได้

ดังนั้นเราควรเลือกจากความเร็วเป็นหลัก

*แบรนด์ทั่วไปมักโชว์ตัวเลข Watt สูงๆเพื่อให้ดูเหมือนมีกำลังเยอะ แต่แบรนด์ที่มีมาตรฐานจะโชว์ตัวเลข Watt จริง ดังนั้นตัวเลข Watt จากแบรนด์ที่ต่างกันจึงนำมาเทียบกันตรงๆ ไม่ได้

Volt

คือแรงดันไฟฟ้า เมื่อแบตเตอรี่มีแรงดันที่สูง จะมีอัตราเร่งที่ดีกว่า และรักษาความเร็วได้คงที่กว่า (เมื่อแบตอ่อนความเร็วก็ยังไม่ตกมาก ซึ่งเห็นชัดหลังจากแบตลดต่ำกว่า 50% ตัวที่ Volt สูงกว่าจะ drop น้อยกว่า)

Volt สูงๆ จะรักษาความเร็วได้คงที่กว่า เห็นชัดหลังจากแบตลด 50% แต่ความเร็วหายไปต่างกัน (volt สูงกว่า drop น้อยกว่า)

เริ่มต้น ควรใช้ Spec สูงไปเลยดีไหม

ถ้ามีสเปคหรือรุ่นในใจที่อยากได้ เราแนะนำให้เลือกรุ่นที่ต้องการไปเลย เพราะรุ่นที่ช้าหรือเร็ว หนักมากหรือน้อย ขนาดใหญ่หรือเล็ก จริงๆ แล้วไม่ได้ใช้เวลาในการทำความคุ้นแตกต่างกันเท่าไร ถ้ายังยกสะดวก

และจากที่ผ่านมาเวลาลูกค้าเลือกตัวที่ช้าในตอนแรก ทั้งที่อยากได้ตัวที่เร็วกว่า ลูกค้าก็มักกลับมาเปลี่ยนเป็นตัวที่เร็วขึ้น

สกู๊ตเตอร์ซ้อนได้ไหม

สกู๊ตเตอร์รุ่นที่รับน้ำหนักได้ตั้งแต่ 120 kg ขึ้นไปสามารถซ้อนได้ทุกรุ่น ทั้งนี้ควรระมัดระวังเป็นพิเศษด้วย

อยากขี่เล่นกับลูกได้ เลือกตัวไหนดี

เลือกตามความเร็วที่ต้องการได้เลย

แนะนำรุ่นเหล่านี้

  • Fiido Q1S

มาลองได้

เรายินดีมากๆ ที่จะให้ลูกค้าทดลองขี่ก่อนได้ทุกรุ่น ลองดูรุ่นที่สนใจ แล้วมาลองตัวจริงได้ที่สาขาใกล้บ้านได้เลย (สาขาต่างๆ) โทรสอบถามก่อนเพื่อให้มั่นใจว่ามีรุ่นนั้นให้ลอง

e-Scooter

ตัวไหนเหมาะสมกับเรา เลือกอย่างไรดี

หลักๆ แล้วทางเราจะแบ่งสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเป็น 2 ชนิดคือ แบบ 1 มอเตอร์ และ 2 มอเตอร์ ซึ่งก็จะมีความเร็วและอัตราเร่งแตกต่างกันไป

แบบ 1 มอเตอร์ (Single motor) : เน้นใช้งานเดินทางทั่วๆ ไป เน้นพกพาง่าย จึงเบากว่าและพกพาได้ง่ายกว่า

แบบ 2 มอเตอร์ (Dual Motor) : เหมาะกับคนชอบความเร็วอัตราเร่งที่จัดจ้าน ต้องการความสนุกตื่นเต้น หรือต้องการเดินทางไกล และไม่เน้นพกพา

ความเร็ว ระยะทาง น้ำหนัก เลือกอย่างไร

พอเลือกได้แล้วว่าจะเอาแบบกี่มอเตอร์ ก็ลองดูที่ความเร็ว ระยะทางต่อชาร์จ และน้ำหนักที่ต้องการได้เลย

ความเร็ว : แนะนำว่าถ้าขี่บนถนนร่วมกับรถชนิดอื่นๆ ควรมีความเร็วมากกว่า 50 km/h ขึ้นไป

ระยะทาง : ปกติแล้วระยะทางต่อชาร์จที่ระบุไว้จะเป็นระยะทางสูงสุด ซึ่งจากการใช้งานจริงระยะอาจจะลดลงอีก 0-20 % ขึ้นอยู่กับความเร็วที่ใช้

น้ำหนัก : ปกติแล้วถ้าน้ำหนักต่ำกว่า 20 kg จะอยู๋ในกลุ่มที่พกพาง่าย ผู้หญิงยังสามารถยกขึ้นลงรถได้สะดวก ส่วนผู้ชายมักจะยกได้ที่ 30-50 kg

เลือกตามการใช้งาน

หยิบบ่อยๆ ขี่สั้นๆ ก็เลือกตัวเบา

บางทีอยากวิ่งไกลมากๆ ตัวใหญ่ก็ขับสบายกว่า (ความเร็วเท่ากัน ระยะได้) แต่ยกยากกว่า

หรือตั้งใจไปขี่เหมือนไปเล่นกีฬา ก็เลือกสเปคแรงๆ ขนขึ้นรถทีเดียว ขี่นานๆ จนพอใจ

เราแบ่งเป็น 3 ประเภท

Lightweight
เน้นพกพาง่าย ขึ้นรถไฟฟ้าด้วย

น้ำหนักเบา พกพาง่ายพับได้เล็ก พาขึ้นรถไฟฟ้า (ใช้เชื่อมต่อการเดินทาง พกไว้หลังรถก็สะดวก)

คุณสมบัติของสกู๊ตเตอร์กลุ่มพกพาง่าย

ความเร็ว : 25-50 km/h
น้ำหนัก : 10-19 kg
ขนาดล้อ : 8.0″ – 8.5″
การพกพา : พับได้เล็กมาก ใส่รถเก๋ง 4 ประตูได้สบาย

แนะนำรุ่นเหล่านี้

Comfort Drive
เน้นขี่สบาย แต่ยังพกพาง่าย ไม่ค่อยต่อรถ

เลือกขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย ขี่สบายขึ้น เพราะที่วางเท้าใหญ่ขึ้น ขี่ได้ระยะทางไกลขึ้น ระบบช่วงล่างดีขึ้น ทำให้รู้สึกนุ่มและมั่นคงขึ้นด้วย

คุณสมบัติของสกู๊ตเตอร์กลุ่มขี่สบาย

ความเร็ว : 50-60 km/h
น้ำหนัก : 20-27 kg
ขนาดล้อ : 8.5″ – 10.0″
การพกพา : พับได้เล็ก สามารถใส่รถเก๋ง 4 ประตูได้

แนะนำรุ่นเหล่านี้

  • Speedway 4, Speedway 5, Speedway Leger
  • Dualtron Mini, Dualtron City, Dualtron Eagle
  • Dualtron Spider
  • Kaabo Mantis 10

High Performance
เน้นสมรรถนะ ขับขี่สนุก ลุยได้

เน้นสมรรถนะ ขับขี่สนุก ช่วงล่างแบบ off road (น้ำหนัก 22-100 กก.)

สมรรถนะที่ดี ขับขี่สนุก ความเร็วสูง ไต่ทางชันได้ดี ช่วงล่างแบบ off-road

น้ำหนัก 23-50 kg

แนะนำรุ่นเหล่านี้

ขนาดล้อ มีผลอย่างไร

ยางตัน กับไม่ตัน มีผลอย่างไร

ยางตันจะยึดเกาะถนนและซับแรงกระแทกได้น้อยกว่ายางลม แต่ไม่ต้องดูแลรักษาเพราไม่สามารถรั่วได้

โดยมากแล้วสกู๊ตเตอร์ที่มีความเร็วสูงมักจะใช้ยางลม เพื่อการยึดเกาะที่ดี

1 มอเตอร์ กับ 2 มอเตอร์ ต่างกันอย่างไร

แบบ 1 มอเตอร์ (Single motor) : เน้นใช้งานเดินทางทั่วๆ ไปเน้นพกพาง่าย น้ำหนักเบากว่าและพกพาได้ง่ายกว่า ความเร็วน้อยถึงปานกลาง

แบบ 2 มอเตอร์ (Dual Motor) : มีกำลังและอัตราเร่งที่จัดจ้าน ไต่ทางชันได้ดี ลุยทาง Offroad ได้ดี เหมาะกับคนชอบสนุกตื่นเต้น หรือต้องการเดินทางไกล ทางวิบาก น้ำหนักจะมากหน่อย ไม่เน้นพกพาหรือเชื่อมต่อการเดินทางขึ้นรถไฟฟ้า

…น้ำหนักเท่าไร ?

เบรคของสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท

มี 3 ประเภทด้วยกัน

  • ดรัมเบรค (Drum brake) : ให้ประสิทธิภาพปานกลาง เป็นระบบเบรคที่อยู่ภายในล้อ ไม่ต้องใช้จานดิส ผ้าเบรกใช้งานได้ยาวนานมาก มีความคงทนมากที่สุด ดูแลรักษาง่าย ไม่มีปัญหาเรื่องดิสเบรกงอ
  • ดิสเบรค + ปั๊มเบรคแบบสาย (Cable disc brake): มีประสิทธิภาพปานกลาง-สูง จะมีแรงเสียดทานของสายเคเบิ้ล ในปั๊มเบรกล่างจะมีลูกสูบเพียง 1 ตัว ทำให้ได้กำลังเบรกไม่เต็มที่เท่าไหร่
  • ดิสเบรค + ปั๊มเบรคแบบกึ่งน้ำมัน (Semi-hydraulic brake) : มีประสิทธิภาพสูง ระบบนี้ตัวปั๊มจะทำงานด้วยระบบน้ำมันและมี 2 สูบ แต่ยังคงใช้การส่งผ่านกำลังผ่านสายเคเบิ้ลเบรกที่เชื่อมต่อกับก้านเบรกมืออยู่ ทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่าแบบดิสเบรกอยู่พอสมควร
  • ดิสเบรค + ปั้มเบรคแบบน้ำมันเต็มระบบ (Fully hydraulic brake): ระบบนี้จะใช้น้ำมันเป็นตัวส่งผ่านกำลังตั้งแต่ก้ามเบรคบนถึงปั๊มเบรกล่าง และจะมีจำนวนลูกสูบมากที่สุด คือ 2 หรือ 4 ตัวต่อปั๊ม ระบบนี้เป็นเบรกที่มีประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ให้แรงเบรกที่สูงและต่อเนื่องมากกกว่าแบบสาย แต่ราคาก็สูงสุด

ระบบเบรกแบบดิสเบรกทุกแบบสามารถอัพเกรดเป็นแบบน้ำมันเต็มระบบได้ได้

e-Unicycle

ตัวไหนเหมาะสมกับเรา เลือกอย่างไรดี

ล้อเดียวไฟฟ้าทุกรุ่น จะมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันไป เช่น รุ่นที่ความเร็วสูงส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักมาก รุ่นที่น้ำหนักเบาก็จะมีความเร็วต่ำและวิ่งได้ไม่ไกล ดังนั้นควรคำนึงถึงจุดประสงค์การใช้งานเป็นหลัก

หยิบบ่อยๆ ขี่สั้นๆ ก็เลือกตัวเบา

บางทีอยากวิ่งไกลมากๆ ตัวใหญ่ก็ขับสบายกว่า (ความเร็วเท่ากัน ระยะได้) แต่ยกยากกว่า

หรือตั้งใจไปขี่เหมือนไปเล่นกีฬา ก็เลือกสเปคแรงๆ ขนขึ้นรถทีเดียว ขี่นานๆ จนพอใจ

Lightweight
(เน้นเบา คล่องตัว)

พกพาง่าย เดินทางหลายต่อ

พกพาง่าย portable เปลี่ยนรถไฟฟ้า (ใช้เชื่อมต่อการเดินทาง พกไว้หลังรถ)

  • ใช้งานระยะสั้นๆ ไม่เกิน 20-40 km/วัน
  • ควบคุมง่ายในความเร็วต่ำ พกพาง่าย ยกง่าย เลี้ยวมุมแคบได้ง่าย
  • ใช้พื้นที่น้อย เหมาะกับพกพาขึ้นรถเมล์รถไฟฟ้า หรือพกไปเที่ยวต่างจังหวัดก็เหมาะ
เลือกแบบไหน
  • น้ำหนักไม่ควรเกิน 17 kg
  • ขนาดล้อที่เหมาะสมคือ 14-16 นิ้ว

เช่นรุ่น

Long Range
(เน้นวิ่งระยะไกล)

  • ใช้งานระยะไกล 20-150 km/วัน ขึ้นไป
  • กลุ่มนี้ควรใช้ล้อที่มีขนาดใหญ่และหน้ายางที่กว้างขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นคงในความเร็วสูง

เช่นรุ่น

  • Kingsong 16X, Kingsong 18L / 18XL
  • Inmotion V10F, Inmotion V12 HS / V12 HT

Suspension wheel
(แบบมีโช้คกันสะเทือน)

เป็นเทคโนโลยีล่าสุดของล้อเดียวไฟฟ้าในปัจจุบัน นอกจากโช้กอัพจะทำให้ขับขี่สบายและปลอดภัยมากขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการยึดเกาะพื้นผิวถนน และสามารถลุยในทางวิบากได้ดีขึ้นอีกด้วย

เหมาะสำหรับขี่ในทาง off-road ขี่แบบ extreme หรือ ถนนที่ไม่เรียบ ซึ่งจะช่วยลดความเมื่อยล้าในการขับขี่ได้มาก

เช่นรุ่น

  • Kingsong S18, Kingsong S19, Kingsong S22
  • Inmotion V11, Inmotion V13

ขนาดล้อ มีผลอย่างไร

ล้อใหญ่ขึ้น หน้ายางกว้างขึ้น จะทำให้รู้สึกมั่นคงขึ้น แต่วงเลี้ยวก็จะกว้างขึ้นด้วย

เนื่องจากขนาดล้อจะมีผลกับความสูงของตัวเครื่องและจุดสัมบริเวณน่องขาส่วนบน ดังนั้นควรเลือกขนาดล้อให้เหมาะกับส่วนสูงด้วยผู้ขี่ถึงจะขับขี่ได้สบายและควบคุมได้ง่ายที่สุด

  • 14″ : เหมาะกับส่วนสูง 140–170 cm
  • 16″ : เหมาะกับส่วนสูง 160-180 cm
  • 18″ : เหมาะกับส่วนสูง 165-190 cm
  • 20-22″ : เหมาะกับส่วนสูง 170-190 cm

* ถ้าผู้ขี่มีน้ำหนักตัว 80 kg ขึ้นไปควรเลือกล้อขนาด 16″ ขึ้นไป

ขึ้นทางลาดได้แค่ไหน

จุดเด่นของล้อเดียวไฟฟ้าคือ ความสามารถในการไต่ความชัน เนื่องจากตัวมอเตอร์มีกำลังมากถึง 800-5,000 วัตต์

ปกติแล้วรุ่นเริ่มต้นก็สามารถขึ้นสะพานชันๆ หรือลานจอดรถที่ชันมากๆ ได้ทุกที่แบบสบายๆ อยู่แล้ว

แต่ถ้าเราต้องการนำไปขี่ขึ้นเขาที่ชันมากจริงๆ หรือทางชันที่เป็นทางวิบาก (off-road) เราควรเลือกรุ่นที่มีกำลังอย่างน้อย 2,000 W ขึ้นไป รับรองว่าจะมีกำลังไม่แพ้รถ 4WD แน่นอน

เลือกมีโช้กดีไหม

มีโช้กดี เพราะเกาะถนนดีกว่า ลดการเกิดอุบัติเหตุ ช่วนลดการสะเทือน ลดการเมื่อยล้าของขาได้มาก

แต่ล้อเดียวที่มีโช้กส่วนมากจะมีน้ำหนักมากและมีราคาสูงขึ้นกว่ารุ่นอื่นๆ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าไม่ได้ขี่ไกลมากเกิน 5-10 กม. โช้กก็อาจจะไม่จำเป็น

ล้อเดียวไฟฟ้าหัดเล่นยากไหม?

ล้อเดียวไฟฟ้าไม่ได้ขี่ยากอย่างที่คิด เนื่องจากระบบมอเตอร์ไฟฟ้านั้นจะช่วยทรงตัวไม่ให้เราล้มไปด้านหน้าและหลังอยู่แล้ว ผู้ขับขี่แค่ทรงตัวไม่ให้ล้มไปทางซ้ายและขวาเท่านั้น

โดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1-5 ชม. ในการหัดทรงตัวไปด้านหน้าและเลี้ยวกลับรถได้ และอีกประมาณ 3–10 วันเพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญจนสามารถขี่ร่วมทางสาธารณะกับคนอื่นได้

ขี่ล้อเดียวเมื่อยไหม

…..

ถ้าซื้อไปแล้วเล่นไม่ได้ ทำอย่างไร

ถ้าลองหัดเล่นเองแล้วยังทรงตัวไม่ได้ ทางร้านมีบริการสอนพื้นฐานการเริ่มเล่นล้อเดียวไฟฟ้าให้ “ฟรี” สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อกับทางร้านด้วย

จากประสบการณขายล้อเดียวไฟฟ้ามาแต่แรก ลูกค้าทุกท่านที่ซื้อไปต่างสามารถขี่ได้ทุกคน อายุตั้งแต่ 5 ขวบ ถึง 80 ปี มีขาข้างเดียวก็เล่นได้เช่นกัน ดังนั้นลูกค้ามีเวลาและมีความตั้งใจเรารับประกันว่าทุกคนทุกวัยสามารถขี่ได้อย่างคล่องแคล่วแน่นอน

ล้อเดียวไฟฟ้า อันตรายไหม

ล้อเดียวไฟฟ้าที่ดูเหมืิอนจะเป็นกีฬา extreme และอันตราย แต่แท้จริงแล้วไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด ถ้าขี่ในความเร็วที่เหมาะสมและขี่ได้อย่างชำนาญแล้วเราจะสามารถควบคุมล้อเดียวไฟฟ้าได้เสมือนอวัยวะของเราอีกชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว

และมีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ใช้ล้อเดียวไฟฟ้าเพื่อเดินทางในเมืองแทนจักรยานและมอเตอร์ไซค์ในชีวิตประจำวัน

น้ำหนักตัวรถ มีผลอย่างไร

แรงขึ้น ไกลขึ้น น้ำหนักก็เยอะขึ้น

หากใช้ระยะทางสั้น เลือกน้ำหนักเบา ทำให้ยกสะดวกดี ขี่ชิลๆ ได้

หากใช้ระยะไกลหน่อย เกิน 5 km เน้นขี่สบาย ก็จะหนักขึ้นหน่อย ยกทีเดียว ขี่ไกล ก็คุ้มเหนื่อย

สำหรับสเปคแรงๆ จะหนักค่อนข้างมาก เหมาะกับคนที่ขี่เหมือนไปเล่นกีฬา ยกขึ้นรถ ขี่นานๆ เลย แล้วค่อยยกกลับบ้าน

e-Bike

ตัวไหนเหมาะสมกับเรา เลือกอย่างไรดี

หลักๆ แล้วรถจักรยานไฟฟ้าจะแบ่งเป็น 2 ประเภท ตามลักษณะการใช้งาน ได้แก่

  • แบบมีระบบปั่น (Pedal assist)
  • ไม่มีระบบปั่น

มีระบบปั่นทำให้ประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้น และอุ่นใจในเรื่องของระยะทาง เผื่อแบตหมดก็ยังคงปั่นได้เหมือนจักรยานทั่วๆ ไป โดยรุ่นที่มีระบบปั่นจะมีน้ำหนักมากกว่ารุ่นที่ไม่มีเล็กน้อย และมีราคาสูงกว่า

ถ้าเราคิดว่าแบตเตอรี่ที่ให้มาเพียงพอต่อการใช้งาน และไม่ต้องการปั่น ระบบปั่นก็ไม่จำเป็น

อยากให้ปั่นได้ แนะนำ

จักรยานไฟฟ้าเรามีแบบพับได้ ขนขึ้นรถได้ น้ำหนักกำลังดี เช่น

  • Fiido D11
  • Fiido X
ไม่ต้องการปั่น แนะนำ
  • Fiido Q1S
  • Yidii Spider
  • Fiido Q2

เลือกความเร็วเท่าไรดี

เทียบง่ายๆ กับจักรยานแม่บ้าน จะปั่นได้ความเร็วสูงสุด 25 km/h

ระบบไฟฟ้าจะช่วยทุ่นแรง และไปถึงที่หมายได้ไวขึ้น ซึ่งก็ขึ้นกับผู้ขับขี่ว่าอยากขี่เร็วแค่ไหน หรือช้าก็ได้ขี่ชิลๆ เห็นข้างทางเพลินๆ ได้

จักรยานไฟฟ้าพับได้

ถ้าต้องการให้ขนขึ้นรถได้ หรือพื้นที่จอดน้อย เรามีแบบพับได้ ประสิทธิภาพดีให้เลือก

มีรุ่นที่เด็กนั่งได้ไหม

รุ่นที่ผู้ใหญ่พาเด็กนั่งได้มี

ขับขี่อย่างไรดี

ขี่ที่ถนนหรือฟุตบาทดี

ในปัจจุบันนี้ทางรัฐบาลยังไม่ออกกฎหมายควบคุมพาหนะประเภทนี้ ดังนั้นเราควรขี่ด้วยความระมัดระวังโดยคำนึงถึงผู้ร่วมทาง (คนเดินเท้า จักรยานยนต์ และรถยนต์) เป็นหลัก

ขี่อย่างเป็นมิตรกับผู้ร่วมทาง

ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้ทั้งทางเท้าโดยใช้ความเร็วที่เหมาะสม (ไม่ควรเกิน 10-20 k m/h)

และขี่บนถนนโดยขี่ชิดขอบทางด้านซ้ายให้มากที่สุด เพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่เอง

แต่ผู้ใช้งานสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าโดยทั่วไปแล้วจะขี่กันบนฟุตบาท เพราะปลอดภัยกว่า ถึงจะขรุขระก็ตาม

ทั้งนี้ระหว่างขับขี่ก็ระมัดระวังและคำนึงถึงความสบายใจและความรู้สึกปลอดภัยของผู้เดินเท้าเป็นหลักด้วย

ลุยน้ำ ลุยฝนได้แค่ไหน

สกู๊ตเตอร์ที่เราจำหน่ายทุกรุ่นได้ผ่านมาตรฐานกันน้ำระดับ IPX5 (IP56) ซึ่งสามารถกันฝน และขี่ผ่านแอ่งน้ำตื้นๆ ได้

อย่างไรก็ดีไม่ควรจอดสกู๊ตเตอร์ในที่โล่งและที่เสี่ยงน้ำท่วม และไม่ควรใช้งานขณะฝนตกหนัก เพราะมีโอกาสที่ซีลยางต่างๆ อาจจะเสื่อมและน้ำสามารถเข้าไปในระบบทำให้เกิดความเสียหายได้

ทำความสะอาดอย่างไร

การทำความสะอาด ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดจะดีกับตัวรถมากที่สุด

ซ่อมได้จริง

รับประกันจริง ไม่มีค่าแรง

หากอยู่ในประกัน ถ้าความเสียหายเกิดจากคุณภาพของสินค้า เราซ่อมและเปลี่ยนให้ฟรี ไม่คิดค่าแรง

  • เรารับประกันมอเตอร์และระบบอิเล็กทรอนิกส์ 1 ปี
  • รับประกันแบตเตอรี่ 6 เดือน

หมดประกันแล้ว ซ่อมได้ไหม

เรามีบริการหลังการขายครบวงจร มีสต๊อกอะไหล่และทีมช่างที่เชี่ยวชาญให้บริการทุกวัน อะไหล่มีสต๊อกทุกชิ้น และจำหน่ายในราคาไม่แพง

เรามีบริการหลังการขายครบวงจร ราคาไม่แพง และเรามีช่างประจำร้านทำงานเป็นทีม ซ่อมได้จริง มีแบตเตอรี่และอะไหล่ทุกชิ้นส่วน

แก้จบ แก้หมด อะไหล่มี ช่างมี อุปกรณ์ครบครัน

มีรับประกันงานซ๋อม

ส่งซ่อมได้ที่ไหน

สามารถส่งซ่อมได้ที่ eWheels Thailand ทุกสาขาทั่วประเทศ

ที่อยู่ eWheels สาขาต่างๆ

มอเตอร์มีคุณภาพ

รถของเราทุกรุ่นใช้มอเตอร์แบรนด์ชั้นนำ มีคุณภาพดี เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและแข็งแรง

จัดส่ง

จัดส่งอย่างไร

กทม. ได้รับสินค้าภายใน 3 ชม. (สั่งผ่าน Line Official – ID: @ew01)

ต่างจังหวัดได้รับของภายใน 1-2 วัน

สั่งซื้อผ่านเว็บเลยได้ไหม

สามารถกดใส่ตะกร้าสินค้าแล้วชำระเงินได้เลย เราตรวจสอบออเดอร์ทุกวัน สามารถจัดส่งให้ได้เลย

อื่นๆ

อุปกรณ์ป้องกันควรมีอะไรบ้าง

อุปกรณ์เสริมมีอะไรบ้าง

ถ้าไม่เวิร์ค ขายมือสองได้ไหม

ร้านเรามีบริการรับฝากขาย

สกู๊ตเตอร์ไฟ้าและล้อเดียวไฟฟ้า มีตลาดซื้อขายมือ 2 ตามเพจซื้อขายใน Facebook มากมาย เช่น

มีกฎหมายควบคุมไหม

ยังไม่มีกฎหมายควบคุมรถประเภทเหล่านี้ ซึ่งหากพวกเราขับขี่กันปลอดภัย สวมอุปกรณ์ป้องกันดี ระวังรถใหญ่ เห็นใจคนเดินถนน และผู้ขี่จักรยาน ก็จะเป็นแรงสำคัญให้เราสามารถขับขี่รถประเภทนี้กันต่อไปได้นานๆ

Talk with us